ยุคสินค้าแพง! ขายสินค้ายังไงให้กำไรมากขึ้น
แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ยุคสินค้าแพง ค่าครองชีพก็แพงแสนแพง และดูท่าจะแพงมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเตรียมปรับขึ้นราคา หลังจากที่พยายามตรึงราคามาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาอันเป็นไปตามต้นทุนการปผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น คาดว่าจะเริ่มมีผลต้นเดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป
และนอกจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยังมีสินค้าอีกหลายตัวที่พร้อมจะขยับราคาสูงขึ้น จึงเรียกได้ว่าเป็นวิกฤติค่าครองชีพที่ประชาชนต้องแบกรับกันไปเต็มๆ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าที่ www.ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่างานนี้ต้องได้รับผลกระทบอย่างมาก เมื่อต้นทุนทุกอย่างแพง ราคาสินค้าก็ต้องปรับขึ้น สวนทางกับรายได้ของคนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่เดิมหรือน้อยลง โอกาสในการซื้อสินค้าก็น้อยลงไปด้วยเช่นกัน
เดือนพฤษภาคมนี้มีอะไรเตรียมขึ้นราคาอีกบ้าง?
นอกเหนือจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เตรียมปรับขึ้นราคาก่อนหน้านี้ไข่ไก่ก็มีการปรับราคาสูงขึ้นไปก่อนแล้ว ไข่ไก่เบอร์ 1 ในตลาดขายตอนนี้แผงละ 125 บาท ไข่ไก่เบอร์ 2 แผงละ 120 บาท เป็นต้น ลองไปดูว่านอกจากนี้มีอะไรที่เตรียมขึ้นราคาอีกบ้างจะได้ทำใจล่วงหน้า
1.ค่าขนส่งสินค้า เตรียมขยับ 15-20%
ภาพจาก https://bit.ly/3y5FjdF
เป็นการปรับขึ้นตามกลไกตลาดและราคาน้ำมันดีเซลหลังรัฐบาลจะเลิกตรึงราคา 30 บาท/ลิตร โดยจะปรับขึ้นแบบเป็นขั้นบันไดตั้งแต่ 32-35 บาท/ลิตร คาดว่าการปรับขึ้นราคาการขนส่งจะต้องมีผลโดยตรงต่อราคาสินค้าต่างๆ จำนวนมาก
2.อุปกรณ์ก่อสร้างจ่อปรับราคาขึ้น
โดยเฉพาะเหล็กเส้นที่ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 30 บาท/กก. และเหล็กรูปพรรณอยู่ที่ 37 บาท/กก. ซึ่งจากต้นทุนด้านต่างๆที่เพิ่มขึ้นทำให้เตรียมประกาศปรับราคาขายเหล็กใหม่อีกครั้ง
3.รับเหมาก่อสร้างเตรียมปรับขึ้นราคา 5-10%
ภาพจาก https://binged.it/3ML6GOd
เมื่อต้นทุนอุปกรณ์ก่อสร้างเพิ่มขึ้นส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจรับสร้างบ้านที่เตรียมมีการหารือกับบริษัทรับสร้างบ้านที่จะพร้อมใจกันทยอยปรับราคาการก่อสร้างบ้านทุกระดับอีกประมาณ 5-10% ทำให้ราคาบ้านแต่ละหลังสูงขึ้นด้วย
4.น้ำผลไม้เตรียมขึ้นราคารับต้นทุนที่เพิ่มกว่า 10%
ด้วยต้นทุนวัตถุดิบขึ้นราคาทุกชนิดทำให้ผู้ประกอบการเครื่องดื่ม จะปรับราคาขายขึ้นทั้งระบบ เช่น น้ำผลไม้ ให้สอดรับกับต้นทุนที่ปรับขึ้นไปแล้ว 10%
5.ปรับเพิ่มค่าไฟฟ้า 23.38 สตางค์ต่อหน่วย
ภาพจาก https://bit.ly/3LujGYq
ในส่วนของค่าไฟฟ้าที่ก่อนหน้านี้ทยอยปรับขึ้นมา ในรอบเดือนพฤษภาคม-สิงหาคมนี้เตรียมปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) เรียกเก็บที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 23.38 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 4.00 บาทต่อหน่วย
ยุคสินค้าแพง พ่อค้าแม่ค้าขายของแบบไหน ให้มีกำไร?
ปัญหาที่ตามมาแน่นอนคือราคาสินค้าที่แพงย่อมส่งผลกระทบต่อยอดขาย ข้อมูลระบุว่าการปรับราคาสินค้าช่วงเดือน กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 27% ได้มีการปรับขึ้นราคาไปแล้ว ส่วนอีก 16% มีแนวโน้มจะปรับราคาในช่วง 3 เดือนข้างหน้า แต่ส่วนใหญ่เมื่อสินค้าราคาแพง ยอดขายมักน้อยลง ด้วยเหตุนี้ลองมาดูเทคนิคดีๆ ว่าพ่อค้าแม่ค้าควรขายของอย่างไรในยุคต้นทุนแพงแบบนี้
1.ชู “จุดเด่นสินค้า” ที่ทำให้รู้สึกคุ้มค่า
การขายสินค้าราคาแพง ลูกค้าย่อมหวังในสิ่งที่จะได้รับสูงเช่นกัน ดังนั้นสินค้าใดๆ ก็ตามที่เรามีอยู่หากจะขายได้ในราคาแพงต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า “คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป” เช่นประสิทธิภาพดีกว่า , แก้ไขปัญหาได้มากกว่า , มีบริการหลังการขายที่ดีกว่า เป็นต้น รวมถึงควรจับจุดความต้องการลูกค้าว่าต้องการอะไรจากสินค้าเมื่อเรารู้ความต้องการโอกาสที่จะขายสินค้าในราคาสูงก็เป็นไปได้มาก เพราะตามหลักจิตวิทยาถ้าคนเรารู้สึกถูกใจ มั่นใจ และเชื่อใจ จะเกิดความรู้สึกอยากได้สินค้านั้นๆ ต่อให้มีราคาแพงก็ไม่กลัว
2.เฉลี่ยราคาสินค้าเป็นรายวัน
สินค้าบางประเภทมีราคาสูงอยู่แล้ว เมื่อต้นทุนมาแพง ก็ยิ่งต้องปรับราคาแพงขึ้นไปอีก ลูกค้าเมื่อเจอราคาใหม่ก็อาจตัดสินใจไม่อยากซื้อ วิธีที่ควรใช้คือการเฉลี่ยราคาสินค้าเป็นรายวันให้ลูกค้าทราบ จะทำให้สินค้าดูมีราคาถูกลงไปมาก วิธีแบบนี้พบมาก เช่น ตู้เย็นราคา 10,000 บาท ถ้าเราเฉลี่ยให้ลูกค้าเห็นภาพว่าจ่ายต่อเดือนราคาเท่านี้ ราคาเฉลี่ยต่อวันราคาประมาณนี้ เมื่อตัวเลขจากราคาเต็มลดน้อยลง ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น วิธีนี้ยังเป็นที่นิยมมากในธุรกิจบริการอื่นๆ เช่น สมัครสมาชิกฟิตเนส, ค่าบริการโทรศัพท์มือถือ, การจ่ายค่าเช่า เป็นต้น
3.จำหน่ายสินค้าแบบ Limited
ถ้าต้นทุนแพง ลองหันมาจำหน่ายสินค้าแบบ Limited น่าจะสร้างยอดขายที่ดีได้ ซึ่งอะไรก็ตามที่เป็นของมีจำนวนจำกัด หรือหายาก ผลิตแล้วก็หมดไป มีแค่ครั้งเดียว หรือน้อยชิ้น จะกลายเป็นของที่เราสามารถขายแพงแบบมีราคาได้ทันที
4.ใช้เทคนิคการขายแบบ Social Validation
หรือเรียกว่าการนำจำนวนคนที่ใช้สินค้าของมาโฆษณา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อกลุ่มใหม่มากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเราสนใจสินค้าใดๆ และเห็นคนที่เคยใช้สินค้านี้มาบ้างแล้วก็ย่อมทำให้เกิดการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแม้สินค้าอาจจะมีราคาสูงมากก็ตาม
5.การตลาดแบบโปรโมชั่น
เมื่อจำเป็นต้องขายสินค้าแพง การใช้โปรโมชั่นจึงจำเป็นอย่างมาก และเชื่อว่าในยุคของแพงนี้เราจะได้เห็นสินค้าหลายแบรนด์ออกมาแข่งกันทำโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้า ก็ขึ้นอยู่กับว่าแบรนด์ไหนจะงัดไอเดียโปรโมชั่นออกมาได้ถูกใจลูกค้า ตรงนี้เรื่องข้อมูลด้านการตลาดสำคัญมากถ้ารู้ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าได้จะนำมาเป็นข้อมูลสร้างโปรโมชั่นได้ง่ายขึ้น
และคาดว่าต้นทุนสินค้านับแต่นี้จะยิ่งสูงขึ้นอีกมากโดยกระทรวงพาณิชย์เองพยายามตรึงราคาสินค้าหลายอย่าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสินค้าเหล่านี้จะไม่ขึ้นราคาเพียงแค่รอเวลาเท่านั้นยกตัวอย่าง อะลูมิเนียม ที่คาดว่าจะเตรียมปรับขึ้นราคาส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องเช่นน้ำอัดลม(กระป๋อง) , ธุรกิจอาหารแปรรูป เช่นปลากระป๋อง ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงและอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาตามด้วย รวมไปถึงกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องอีกหลายอย่าง ซึ่งในการลงทุนทำธุรกิจก็จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเตรียมรับมือในวิกฤติเหล่านี้ด้วย
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3rWBuna , https://bit.ly/3OJSyqg , https://bit.ly/3Ll4tZA , https://bit.ly/39ckXVG
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3OV13yK