พยากรณ์อนาคต ปี 2576 โลกนี้จะเป็นอย่างไร?

อนาคตเป็นสิ่งที่เราไม่รู้! อาศัยเพียงการใช้ข้อมูลที่มีในปัจจุบันคำนวณถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งก็อาจจะเป็นจริงหรือไม่จริงก็ได้ และจากกระแสการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างมากก็ทำให้คาดการณ์ว่าโลกของเราในอีกไม่เกิน 10 ปีจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

www.ThaiSMEsCenter.com ก็สนใจในเรื่องนี้แต่จะให้ฟันธง 100% ก็คงไม่ได้เพราะมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง ข้อมูลที่เรานำเสนอจึงเป็นแนวคิดในภาพรวมถึงสิ่งที่อาจจะเกิดได้จริง อ้างอิงจากเหตุผลข้อมูลปัจจุบันเป็นหลัก

โลกยุคอนาคตจะมีหลายอย่างจากปัจจุบันที่หายไปอย่างสิ้นเชิง

พยากรณ์อนาคต

ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก ณ ตอนนี้จะเห็นได้ว่ามีหลายสิ่งที่เริ่มทยอยหายไปจากการมีเทคโนโลยีเข้ามาทดแทน และเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะยิ่งทยอยหายไปอย่างสิ้นเชิงในอนาคต เริ่มกันตั้งแต่หนังสือพิมพ์ที่ปัจจุบันยังมีให้เห็นอยู่บ้างแต่ปริมาณก็น้อยเต็มที่แถมความนิยมก็ไม่สูงเหมือนสมัยก่อน และคาดว่าในอนาคตก็จะถูกแทนที่ด้วยข้อมูลข่าวสารผ่านโทรศัพท์มือถือที่เข้าถึงได้รวดเร็วกว่า

ไม่เว้นแม้แต่วารสาร , นิตยสารที่ในอนาคตก็จะถูกทดแทนด้วยข้อมูลในอินเทอร์เนตมากขึ้นเช่นกัน และที่หายไปแล้วแน่ๆ ตอนนี้อย่างแผ่นCD หรือDVDที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับความนิยมสูงมากจนกระทั่งอินเทอร์เนตมีการพัฒนาอย่างสุดโต่งทำให้สิ่งเหล่านี้ถูกลืมในทันที และการเข้ามาของสมาร์ทโฟน ก็จะยิ่งทำให้อีกหลายอย่างหายไปในอนาคตเช่น เครื่องคิดเลข , ตู้โทรศัพท์สาธารณะ , การรับส่งแฟกส์ , นาฬิกาปลุกตั้ง , กล้องดิจิตอล , ป็นต้น

ในส่วนของอาชีพเองก็คาดการณ์ว่าอนาคตอันใกล้จะมีอีกหลายอาชีพกลายเป็นเพียงความทรงจำ เช่นบุรุษไปรษณีย์ , แคชเชียร์ , พนักงานธนาคาร , ไกด์/คนนำเที่ยว , พนักงานโรงงาน (บางส่วน) ซึ่งแน่นอนในตอนนี้ยังไม่ถึงกับหายไปอย่างสิ้นเชิงแต่อาชีพเหล่านี้ก็เริ่มถูกลดบทบาทลงอย่างมาก ด้วยเหตุผลสำคัญคือการใช้เทคโนโลยีได้ประสิทธิภาพมากกว่าและอาชีพเหล่านี้จะหายไปอย่างสิ้นเชิงในอนาคตแน่

คาดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในโลกอนาคต

1.มหานครจะเพิ่มมากขึ้น

10

ถ้าดูจากขนาดของเมืองที่โลกอนาคตจะมีขนาดใหญ่ขึ้น ข้อมูลจาก UN ระบุว่าในปี 1975 มีเพียง 4 เมืองในโลกเท่านั้นที่จัดว่าเป็นมหานคร (Megacity) และปี 2000 เพิ่มขึ้นเป็น 18 เมือง ขณะที่ปี 2015 เพิ่มขึ้นเป็น 22 เมืองและมีแนวโน้มจะมีมากขึ้นในอนาคต

2.ประชากรโลกอาจสูงถึง 1.1 หมื่นล้าน

9

ข้อมูลระบุว่าจำนวนประชากรโลกจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 9.7 พันล้านคนภายในปี 2050 และอาจเพิ่มสูงเกือบ 1.1 หมื่นล้านคนในช่วงปี 2100 ปัจจัยที่ทำให้สัดส่วนประชากรโลกขยายตัว คือจำนวนประชากรที่อายุยืนยาวมีมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่นและประเทศในเครือสหภาพยุโรป ซึ่งต่างประสบภาวะอัตราการเกิดต่ำกว่าเกณฑ์ แต่มีอัตราของผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น

3.ภาวะโลกร้อนปัญหาในอนาคต

8

นับถึงตอนนี้มีความพยายามในการลดโลกร้อนเพราะตระหนักแล้วว่าจะส่งผลเสียในอนาคตอย่างมาก ซึ่งในที่ประชุมระดับโลกมีเป้าหมายควบคุมอุณหภูมิของโลกจนถึงปี 2100 ไม่ให้เพิ่มเกินไปกว่า 1.5 องศาเซลเซียส แต่ก็ดูเหมือนจะแก้ปัญหานี้ได้ยากเพราะแค่ในปี 2021 ก็นับว่าอุณหภูมิของโลกสูงขึ้นจากช่วงยุคก่อนอุตสาหกรรมแล้ว 1.2 เซลเซียส

4.บริษัทที่ปิดกั้นเทคโนโลยีจะหายไป

7

ในอนาคตโลกแห่งธุรกิจจะขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี ส่งผลในปี 2030 บริษัทที่ไม่ปรับเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้จะหายไป 40% เลยทีเดียว ในขณะที่บริษัทใหม่ๆ ที่เป็น Tech Company กลับมีมากขึ้น ธุรกิจจึงต้องลองทำอะไรใหม่ๆ เพราะบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีจะมีต้นทุนที่ถูกลงมาก ในขณะที่บริษัทที่ไม่ปรับตัวตามกลับต้องใช้ต้นทุนการผลิตในราคาที่สูง และมีแนวโน้มที่จะหายไปจากตลาดในอนาคตด้วยเช่นกัน

5.ทักษะสำคัญที่สุดของคนทำงานคือ AQ

6

คาดการณ์ว่า ในปี 2030 IQ และ EQ จะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดอีกต่อไป แต่คือ AQ (Adversity Quotient) หรือความฉลาดในการรับมือกับปัญหาต่างๆ เพราะธุรกิจหรือองค์กรอาจเจอกับปัญหาที่ไม่อาจคาดคิดได้ ดังนั้น AQ จึงจำเป็นสำหรับคนทำงานในโลกอนาคต

6.มนุษย์จะเจ็บป่วยและชราช้าลง

5

สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแน่ๆ คือการแพทย์เจริญก้าวหน้ามาก จึงคาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า มันมีโอกาสที่เราจะ “ไม่แก่หรือแก่ช้าลง” จากเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Biohacking ที่เปรียบเสมือนกับการแฮกร่างกายให้ทำงานได้ตามที่เราต้องการ หรือจะเป็นเทคโนโลยี Bioengineering วิศวกรรมชีวเวช ที่เป็นการนำองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมมาใช้กับทางการแพทย์ เช่น การสร้างอวัยวะเทียม เป็นต้น ยังไม่นับรวมการนำ DNA ของเราไปฝากไว้ใน Biobank ที่เมื่อเราเจ็บป่วยเมื่อไร ก็จะมีการนำข้อมูลตรงนี้มาปลูกใส่สเต็มเซลล์ใหม่ของอวัยวะในร่างกายของเรา ทำให้สามารถเปลี่ยนอวัยวะได้เลยไม่ต้องรอการบริจาคอีกต่อไป

7.AI จะไม่ทุ่นแค่แรง แต่ทุ่นความคิดด้วย

4

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การพัฒนาของเทคโนโลยีและ AI เริ่มเข้ามา “ทุ่นแรง” มากขึ้น และการพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้ที่ต่อเนื่องจะได้ AI ที่ “ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ” จนเข้ามาทำงานแทนมนุษย์ในหลายด้านเช่น “รถที่ขับเองได้” และ AI ที่ว่านี้ก็ยังจะแทรกซึมเข้าไปในอีกหลายธุรกิจที่จะทำให้การจ้างคนทำงานลดน้อยลงอย่างมาก

8.รถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Car)

3

เทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด แม้เราจะได้ยินมานานมากแล้วก็ตาม Uber ได้ทำการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับบนท้องถนน ส่วน Tesla ก็ไม่น้อยหน้า มีการบรรจุฮาร์ดแวร์ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการขับเคลื่อน Model 3 ด้วยระบบกลไกอัจฉริยะ ที่จะทำให้รถยนต์สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง ตอนนี้เมืองใหญ่ และคนขับเตรียมตัวเก็บเงินเพื่อเป็นเจอของยานยนต์ไร้คนขับได้เลย เพราะเทคโนโลยีนี้มาแน่

9.รถยนต์ไฟฟ้า

2

มีประเด็นน่าสนใจเคยมีประกาศว่าไทยเตรียมยกเลิกการขายรถยนต์น้ำมันภายในปี 2035 หลังจากที่มีหลายประเทศประกาศนำร่องไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อกระตุ้นการพัฒนาภายในประเทศเตรียมพร้อมดันไทยเป็นฐานการผลิต “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่สำคัญของโลกในอีก 14 ปีข้างหน้าเราอาจจะแทบไม่ได้เห็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน หรือปั๊มน้ำมันในประเทศไทยอาจกลายเป็นศูนย์ชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้กับรถ EV ไปหมดแล้วก็เป็นได้

10.Metaverse จะมีบทบาทมากขึ้น

1

แม้ตอนนี้จะยังเป็นแค่แนวคิดหรือเป็นแค่แนวทางที่ยังไม่ชัดเจนและไม่ได้มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ส่วนใหญ่เป็นแค่การทดลองแต่คาดว่า Metaverse จะมีบทบาทในอนาคตมากขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีหากทำให้เกิดได้จริงจะพลิกโฉมธุรกิจและเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในสังคมได้อย่างมาก นับถึงตอนนี้ก็มีตัวอย่างที่น่าสนใจเช่น อปพลิเคชันของ IKEA ให้ลูกค้าสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจาก AR (โลกเสมือน) ไปทดลองวางในห้องจริงของผู้ใช้งาน (โลกจริง) แล้วแสดงผลเป็นโมเดลสามมิติให้เห็นว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้เข้ากันกับห้องของตนเองมากน้อยแค่ไหน เป็นต้น

ภาพรวมที่ชัดเจนในโลกอนาคตหลังจากนี้อีกไม่เกิน 10 ปียังไม่มีใครฟันธงได้ว่าสิ่งที่คิดไว้จะเกิดขึ้นจริง มีแต่คาดการณ์ คาดว่าจะเกิด แต่เชื่อได้ว่าไม่ช้าหรือเร็วเทคโนโลยีเหล่านี้ และดีกว่านี้ต้องถูกนำมาใช้มากขึ้น ในโลกอนาคตเราอาจเห็นหุ่นยนต์ทำงานแทนมนุษย์หรืออาจมีเทคโนโลยีที่เราเคยเห็นจากในหนังสามารถเอามาใช้จริงได้ ซึ่งทุกความเปลี่ยนแปลงก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย การพัฒนาใดๆจึงต้องมองปัญหาและผลกระทบที่จะตามมาอย่างรอบด้านด้วย


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3u8Ow1J , https://bit.ly/3VRUH6j , https://bit.ly/3u6PKdJ , https://bit.ly/3F8ijhm , https://bit.ly/3UdWNfd , https://bit.ly/3GXRNIL , https://bit.ly/3ipYaKU , https://bit.ly/3XNrtY2 , https://bit.ly/3VChiDx

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3hCuMkj

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด