บริการที่ปรึกษา IFRS 9 ช่วยลดต้นทุนด้านบัญชีได้อย่างไร ?

มาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ ฉบับที่ 9 หรือ IFRS 9 ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวทางการบัญชีสำหรับเครื่องมือทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการวัดมูลค่าสินทรัพย์ทางการเงิน การรับรู้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดการณ์ล่วงหน้า (Expected Credit Loss หรือ ECL) และการจัดประเภทสินทรัพย์ทางการเงิน

ทำให้ธุรกิจต้องเผชิญกับความซับซ้อนและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในการปฏิบัติตามมาตรฐาน แต่ในทางกลับกัน หากองค์กรใช้ บริการที่ปรึกษา IFRS 9 อย่างเหมาะสม ก็สามารถลดต้นทุนด้านบัญชีได้ในหลายมิติ บทความนี้จะอธิบายว่าการใช้บริการที่ปรึกษา IFRS 9 สามารถช่วยองค์กรลดต้นทุนทางบัญชีได้อย่างไรบ้าง

1. ลดต้นทุนจากการคำนวณ ECL และการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต

หนึ่งในข้อกำหนดที่สำคัญของ IFRS 9 คือการคำนวณ Expected Credit Loss (ECL) ซึ่งเป็นการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของสินทรัพย์ทางการเงินล่วงหน้า โดยต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น Probability of Default (PD), Loss Given Default (LGD), และ Exposure at Default (EAD) การคำนวณเหล่านี้ซับซ้อนและต้องใช้โมเดลทางสถิติที่แม่นยำ การใช้บริการที่ปรึกษา IFRS 9 ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้าน quantitative finance, machine learning และ risk modeling จะช่วยองค์กรเลือกและพัฒนาโมเดลที่เหมาะสม ลดความผิดพลาดในการคำนวณ ลดต้นทุนด้านบุคลากร และช่วยให้การบริหารความเสี่ยงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

2. ลดต้นทุนด้านระบบและซอฟต์แวร์

องค์กรที่ต้องดำเนินการตาม IFRS 9 จำเป็นต้องใช้ ซอฟต์แวร์ด้านการบัญชีและการบริหารความเสี่ยงที่ทันสมัย เพื่อรองรับการคำนวณและการจัดทำรายงานที่ถูกต้อง แต่การพัฒนาและดูแลระบบเหล่านี้อาจมีต้นทุนที่สูง หากองค์กรใช้บริการที่ปรึกษา IFRS 9 สามารถช่วยเลือกโซลูชันที่คุ้มค่าที่สุด ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และช่วยให้การบูรณาการระบบเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ ที่ปรึกษาบางรายยังมี customized IFRS 9 solutions ที่สามารถช่วยองค์กรประหยัดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบเองได้

3. ลดต้นทุนจากข้อผิดพลาดทางบัญชีและค่าปรับทางกฎหมาย

การดำเนินการด้าน IFRS 9 หากผิดพลาดอาจนำไปสู่การปรับปรุงงบการเงินย้อนหลัง หรือแม้กระทั่งค่าปรับจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยให้องค์กรสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานได้อย่างถูกต้อง ลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดทางบัญชี ลดความเสี่ยงด้านกฎหมาย และช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแฝงจากความผิดพลาด

4. ลดต้นทุนบุคลากรและการฝึกอบรม

องค์กรที่ต้องดำเนินการตาม IFRS 9 จำเป็นต้องมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านมาตรฐานบัญชี Risk Management และ Data Analytics ซึ่งเป็นทักษะที่หายากและมีต้นทุนสูง การใช้บริการที่ปรึกษา IFRS 9 ช่วยลดภาระในการจ้างพนักงานประจำ และสามารถ จัดฝึกอบรมให้กับทีมบัญชีและการเงินขององค์กร เพื่อเพิ่มทักษะ ลดความจำเป็นในการจ้างบุคลากรเพิ่มเติม และช่วยให้ทีมสามารถดูแลการปฏิบัติตาม IFRS 9 ได้ในระยะยาวโดยไม่ต้องพึ่งพาภายนอกมากเกินไป

5. ปรับกลยุทธ์ทางบัญชีและการบริหารสินทรัพย์เพื่อประหยัดต้นทุน

การใช้บริการที่ปรึกษา IFRS 9 ไม่เพียงแต่ช่วยให้การปฏิบัติตามมาตรฐานบัญชีเป็นไปอย่างถูกต้องเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยองค์กร วิเคราะห์และปรับโครงสร้างพอร์ตสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น การจัดประเภทสินทรัพย์ทางการเงิน (Amortized Cost, FVOCI, FVPL) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดภาระทางบัญชี และเพิ่มประสิทธิภาพของงบการเงิน ทำให้ต้นทุนรวมขององค์กรลดลงในระยะยาว

การปฏิบัติตาม IFRS 9 อาจมีความซับซ้อนและมีต้นทุนที่สูง แต่ บริการที่ปรึกษา IFRS 9 สามารถช่วยองค์กรลดต้นทุนทางบัญชีได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การลดต้นทุนจากการคำนวณ ECL, ลดค่าใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์, ลดความเสี่ยงจากข้อผิดพลาดทางบัญชี, ลดต้นทุนบุคลากร และการช่วยองค์กรปรับกลยุทธ์ด้านสินทรัพย์ทางการเงิน

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต