ถิงถิง บิงซูน้ำขิง ร้านขนมหวานสไตล์ไทย – จีน เน้นทำเลแบบ Local ยอดขายต่อเดือน “เกินแสน”
โค้งสุดท้ายปลายปี! เชื่อว่ามีหลายคนวางแผนมองหาธุรกิจเพื่อลงทุนในปี 2568 คำถามคือจะเลือกลงทุนอะไรดี? ในปัจจุบันการลงทุนแฟรนไชส์คือทางลัดสู่ความสำเร็จที่ง่ายสุด สำคัญคือต้องเป็นสินค้าที่ขายง่ายขายดี และผู้ลงทุนต้องได้รับการสนับสนุนจากแฟรนไชส์ซอเต็มรูปแบบ ยิ่งมีการควบคุมคุณภาพให้เหมือนกันในทุกสาขายิ่งตอกย้ำว่าเป็นแฟรนไชส์ที่น่าลงทุนมาก
ซึ่ง “ถิงถิง บิงซูน้ำขิง” โดยบริษัท ทีทีจี ฟู้ด จำกัด มีจุดเด่นตรงคอนเซปต์ที่กล่าวมาทุกประการ นี่คือแฟรนไชส์ร้านขนมหวานสไตล์ไทย – จีน ที่นำสูตรขนมของอาม่ามาพัฒนาเป็นธุรกิจให้ตอบโจทย์คนยุคใหม่ มีทั้งสูตรดั้งเดิมและสูตรที่ปรับปรุงใหม่ เน้นไปที่เรื่องสุขภาพเป็นสำคัญ คัดสรรวัตถุดิบอย่างดี ตามสโลแกน “สุขภาพดีหมื่นปี หมื่นหมื่นปี” สาขาแรกเปิดที่สาธุประดิษฐ์
ด้วยความที่เป็นร้านขนมหวานแบบไทยจีนซึ่งในช่วงนั้นธุรกิจนี้ยังมีไม่มาก คู่แข่งน้อย แถมเป็นเมนูที่เข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ได้ง่าย ทำให้ได้รับความสนใจมีผู้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยเหตุผลที่เลือกทำเลสาธุประดิษฐ์เปิดสาขาแรกเพราะเป็นทำเลแบบ Local คือคนในพื้นที่มีความผูกพันกับสถานที่ เป็นย่านที่มีวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย สินค้าจึงได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีน โดยมีทั้งอาม่า อากง และคนหนุ่มสาวเข้ามาใช้บริการที่สาขาแรกนี้เยอะมาก
กระแส “รีวิว” ดันธุรกิจ “ถิงถิง บิงซูน้ำขิง” ดังมาก!
ประมาณ 2-3 เดือนที่เริ่มธุรกิจก็ทำให้แบรนด์ “ถิงถิง บิงซูน้ำขิง” เริ่มมีชื่อเสียง จากการที่ลูกค้าที่หลายคนเป็นนักรีวิว และประทับใจในรสชาติ รวมถึงบริการที่ดี และการรีวิวผ่านโซเชี่ยล ก็ยิ่งทำให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น เมนูซิกเนเจอร์ที่คนพูดถึงกันมากคือ “บิงซูน้ำขิง” ที่ปรับสูตรให้เข้ายุคสมัย เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี บางคนไม่ชอบทานแบบร้อนๆ บิงซูน้ำขิง ก็เป็นทางเลือกที่ทำให้ลูกค้าชอบมาก
ในระหว่างนี้ก็มีหลายคนสนใจและถามเรื่องการลงทุนในระบบแฟรนไชส์แต่ด้วยความที่แบรนด์ถิงถิง เริ่มต้นมาจากธุรกิจแบบครอบครัว การขยายเป็นแฟรนไชส์จึงมีความกังวลในเรื่องคุณภาพสินค้าและบริการ การปล่อยแฟรนไชส์ให้คนไปลงทุนอาจมีความเสี่ยง จึงได้หันมาเซตระบบให้มีประสิทธิภาพโดยมุ่งหวังว่าหากมีคนมาสนใจลงทุนในแฟรนไชส์เขาจะสามารถมีธุรกิจที่สร้างรายได้ดี และลูกค้าที่มาใช้บริการจะได้รับคุณภาพและบริการที่ดีเหมือนกันในทุกสาขาด้วย
เน้นทำเลแบบ Local ต้องวิเคราะห์ทำเลให้ก่อนเปิดร้าน
สิ่งที่ถิงถิง บิงซูน้ำขิง ให้ความสำคัญมาก คือเรื่อง “ทำเล” ด้วยต้องการให้คนลงทุนแล้วประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี คนที่สนใจและอยากลงทุนต้องได้รับการวิเคราะห์ทำเลก่อนเปิดร้าน คำว่าทำเลที่ดีในแนวทางของถิงถิง คือเป็นทำเลแบบ Local คือให้เป็นร้านที่เข้ากับวิถีชีวิตของคนแถวนั้น
ถ้าจะเปิดตรงไหนก็ควรมีกลุ่มลูกค้าในพื้นที่นั้นด้วย รวมถึงต้องวิเคราะห์ศักยภาพโดยที่ควรมีร้านค้า ร้านอาหารอื่นๆ ยิ่งเป็นโซนที่คึกคักคนพลุกพล่านยิ่งเพิ่มโอกาสขายดี คนมาทานอาหารมาเดินเล่น มาช็อปปิ้ง แล้วก็มีร้านขนมหวานอยู่ในโซนนั้นๆ ด้วยโอกาสในการขายก็มีมากขึ้น
ทั้งนี้หากวิเคราะห์ในจุดเด่นของถิงถิง บิงซูน้ำขิง ที่นอกจากใส่ใจในเรื่องของ “ทำเล” ยังให้ความสำคัญในเรื่อง “คุณภาพ” จึงได้พัฒนาระบบครัวกลางเพื่อให้ทุกสาขาได้วัตถุดิบที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน และในแต่ละพื้นที่จะมีสาขาประมาณ 1 หรือ 2 แห่งเท่านั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ในแต่ละทำเลเป็นสำคัญด้วย
เปิดเมนูถิงถิง ไม่ได้มีแค่ “บิงซูน้ำขิง” ทุกเมนูอร่อยมาก
ด้วยความที่เป็นร้านขนมหวานสไตล์ไทย – จีน และเน้นคุณภาพเป็นสำคัญ จึงทำให้เป็นแบรนด์แฟรนไชส์ที่อัตราการเติบโตทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ทางบริษัทก็มีการพัฒนาเมนูใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายของผู้ลงทุนมากขึ้น ยกตัวอย่างที่น่าสนใจเช่น นุ่มเปา ซาเลาเปาไซด์มินิหลากหลายรสชาติเช่น ไส้ผักเห็ดหอม , ไส้คัสตาร์ดครีม , ไส้หมูแดง , ไส้หมูสับ เป็นต้น
หรือในกลุ่มบิงซูที่เป็นจุดเด่นของร้านนอกจากบิงซูน้ำขิงที่ขายดีมากยังมีอีกหลายเมนูที่น่าสนใจเช่น บิงซูมะพร้าวน้ำหอมลูกตาล , บิงซูเต้าทึง , บิงซูนมสดไข่เค็ม , บิงซูชาไทย เป็นต้น และก็ยังมีอีกหลายเมนูที่ลูกค้าแต่ละคนก็มีเมนูในใจของตัวเอง เป็นร้านขนมหวานที่คนนิยมมาทานกันเป็นครอบครัว
มีเมนูสำหรับพ่อ แม่ ลูก ให้เลือกทานได้ตามแต่ความต้องการและก็ไม่ใช่แค่ขนมหวานเท่านั้นเพราะทางบริษัทได้พัฒนาเมนูที่เอาใจลูกค้าอย่างหลากหลายแต่เน้นที่ความเป็นไทย – จีน มีกลุ่มอาหารคาวอย่างเกี๊ยวอาม่า ก็เป็นอีกเมนูที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน
45 สาขาทั่วประเทศ ยอดขายต่อเดือน “เกินแสน”
ความน่าสนใจของถิงถิงบิงซูน้ำขิง คือใช้งบลงทุนไม่สูงนัก ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 300,000 บาท งบในการลงทุน 1 – 1.5 ล้านบาท โอกาสคืนทุน 1 – 3 ปี โดยขึ้นอยู่กับทำเลและการบริหารจัดการ เหนือสิ่งอื่นใด ถิงถิงให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ลงทุนทุกคนเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ในทุกสาขาที่เปิดต้องได้รับประโยชน์จากการลงทุนสูงสุด โดยทางบริษัทพร้อมสนับสนุนผู้ลงทุนในทุกด้าน เช่น
- การวิเคราะห์ทำเลให้ก่อนเปิดร้าน
- การฝึกอบรมขั้นต่ำ 200 ชั่วโมงหรือจนกว่าจะสามารถทำได้
- ระบบการบริหารจัดการภายในร้าน
- การส่งเสริมด้านการตลาดทั้งออฟไลน์ และออนไลน์
- การพัฒนาสินค้าใหม่ให้อย่างต่อเนื่องเพิ่มโอกาสในการขายมากขึ้น
- อุปกรณ์สำหรับการเปิดร้าน
- ระบบครัวกลางที่ทำให้ทุกร้านมีมาตรฐานรสชาติเดียวกัน
- การจำกัดสิทธิในการลงทุนแต่ละพื้นที่
- การให้คำปรึกษาโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ พร้อมแก้ไขให้ทุกปัญหา
ปัจจุบันมีทั้งหมด 45 สาขา ถ้ามองภาพรวมความสำเร็จมีหลายสาขาที่สร้างรายได้ดีมาก กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งคำว่ายอดขายดีในมุมของถิงถิงประมาณ 500,000 -600,000 บาทต่อเดือน และก็มีหลายสาขาที่สามารถทำยอดนี้ได้
หรือถ้ามองโดยเฉลี่ยรายได้ของแต่ละสาขาอยู่ที่ประมาณ 200,000 -300,000 บาทต่อเดือน ถือว่าเป็นตัวเลขสำหรับการทำธุรกิจที่ดีมากๆ ก็เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นและตั้งใจของถิงถิง บิงซูน้ำขิง ที่ต้องการให้ทุกสาขาเมื่อลงทุนแล้วมีโอกาสประสบความสำเร็จได้อย่างสูงสุด
สำหรับเป้าหมายในปีนี้ต่อเนื่องไปถึงปี 2568 คือตั้งเป้ามขยายสาขาเพิ่ม 10 แห่งกระจายในพื้นที่ที่มีศักยภาพในอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ แต่ทั้งนี้แม้จะเป็นแฟรนไชส์ที่สร้างรายได้ดี และน่าลงทุนมากแค่ไหน ทางแฟรนไชส์ก็ยังคงเน้นย้ำในเรื่องคุณภาพและบริการที่ดี หากทำเลไหนที่ประเมินแล้วว่ามีความเสี่ยงก็จะไม่แนะนำให้ลงทุน เนื่องด้วยเป็นการทำธุรกิจที่มองทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน จึงมุ่งมั่นให้ถิงถิง บิงซูน้ำขิง เป็นธุรกิจที่พร้อมสร้างความสุขให้กับลูกค้าและผู้ลงทุนได้
สนใจลงทุนแฟรนไชส์ ถิงถิง บิงซูน้ำขิง
โทร. 086-0550992 , 092-6652020
Website : https://tingtingbingsu.com
Facebook : https://www.facebook.com/tingtinggingerbingsu
ดาวเด่นแฟรนไชส์ : Star Franchise
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)