ตะลึง! คนไทย 12.2 ล้านคนมีเงินติดบัญชีไม่เกิน 500 บาท

กระแสข่าว ที่มาแรงตอนนี้คือการประกาศปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากจาก 5 ล้านบาท เป็น 1 ล้านบาทที่จะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2564 หลายคนตกใจกับข่าวนี้ ซึ่งถ้าดูจากภาพรวมของบัญชีเงินฝากในประเทศไทยที่มีอยู่กว่า 109.31 ล้านบัญชี คนที่จะได้รับผลกระทบในครั้งนี้อยู่ประมาณ 1.8 ล้านบัญชี หรือคิดเป็น 1.5% ของยอดบัญชีเงินฝาก

นั่นหมายความว่า อีกประมาณ 98.03% จะไม่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ แต่เมื่อ www.ThaiSMEsCenter.com ได้มาวิเคราะห์เจาะลึกลงไปในเรื่องนี้กลับเจอตัวเลขที่น่าตกใจยิ่งกว่า พบว่าคนไทยกว่า 12.2 ล้านคนกลับมีเงินติดบัญชีไม่เกิน 500 บาทเท่านั้น

เงินฝากประมาณ 95.25 ล้านบัญชี มีเงินไม่เกิน 50,000 บาท

ตะลึง! คนไทย 12.2

ภาพจาก bit.ly/2VKv0KO

จากยอดบัญชีรวมประมาณ 109.31 ล้านบัญชี พบว่า 95.25 ล้านบัญชีคือคนส่วนใหญ่ของประเทศที่มีเงินในบัญชีไม่เกิน 50,000 บาท สอดคล้องกับงานวิจัยสถาบันวิจัยป๋วย อึ๊งภากรณ์ (สศป.) ที่ยืนยันคนไทยกว่าครึ่ง 56.04% มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ แต่มีเงินในบัญชีน้อย โดยครึ่งหนึ่งของผู้ฝากมีเงินในบัญชีไม่ถึง 3,142 บาท ส่วน 32.8% หรือ 12.2 ล้านคนมีเงินในบัญชีไม่เกิน 500 บาทอีกด้วย

และหากวิเคราะห์ลงไปมากขึ้นพบว่าผู้ชายมียอดเงินฝากต่ำกว่าผู้หญิงกว่าสองเท่าในเกือบทุกช่วงอายุ โดยค่ากลางเงินฝากต่อรายในเพศหญิงอยู่ที่ 4,407 บาท เพศชายอยู่ที่ 2,524 บาท สะท้อนถึงความมีวินัยทางการเงิน หรือทักษะการบริหารจัดการเงินของผู้หญิงที่มีมากกว่าผู้ชายตั้งแต่ยังเล็ก สอดคล้องกับงานวิจัยหลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงมีบทบาทสําคัญในการดูแลการเงินของครัวเรือน จึงอาจทําให้ผู้หญิงมีเงินในบัญชีมากกว่าผู้ชาย

ช่วงอายุ 15-18 ปี ส่วนใหญ่มีเงินเก็บในบัญชีไม่ถึง 2,000 บาท

ตะลึง! คนไทย 12.2

ภาพจาก bit.ly/2VCOu4H

มองที่ช่วงอายุของการฝากเงินพบว่าคนวัยทำงานอายุ 21-35 ปีกว่า 80% มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ ขณะที่ 10-30% เป็นกลุ่มวัยเด็กอายุ 15-18 ปี และครึ่งหนึ่งของกลุ่มวัยเด็กนี้มีเงินในบัญชีไม่ถึง 2,000 บาท ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า การมีบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในจำนวนที่น้อยอาจเป็นผลมาจากการที่เด็กส่วนใหญ่มักเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารออมสินมากกว่า

นอกจากนี้ยังพบว่าจํานวนเงินในบัญชีมีความสัมพันธ์กับอายุที่เพิ่มขึ้น กล่าวคือคนที่มีอายุมากจะมีเงินในบัญชีมากกว่าคนที่อายุน้อยโดยคนวัยหลังเกษียณมีค่ากลางเงินฝากในบัญชีต่อคน 7,445 บาท เทียบกับกลุ่มคนที่มีอายุน้อย 15-25 ปี ที่มีประมาณ 947 บาท

เงินฝากลดลงกว่า 1 แสนล้าน ในช่วงสถานการณ์ COVID

ตะลึง! คนไทย 12.2

ภาพจาก bit.ly/3xClbvX

การที่ตัวเลขของคนส่วนใหญ่มีเงินติดบัญชีไม่ถึง 50,000 แถมกว่า 12.2 ล้านคนมีเงินติดบัญชีไม่ถึง 500 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID 19 ที่ทำให้ยอดเงินฝากในหลายบัญชีไม่เพิ่มขึ้นแถมข้อมูลที่น่าตกใจไม่แพ้กันคือในช่วงเวลาเพียง 1 เดือน (พฤษภาคม –มิถุนายน 2564) พบว่ายอดเงินฝากของทุกธนาคารลดลงรวมกันกว่า 1.09 แสนล้านบาท

ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 5 เดือน อันเป็นผลจากการที่ประชาชนทยอยเบิกใช้เพื่อนำมาหมุนเวียนในการดำเนินชีวิตช่วง COVID 19 ระลอกที่ 3 สอดคล้องกับสินเชื่อธนาคารที่ได้ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 78,400 ล้านบาท ก็เป็นผลจากการที่ประชาชนได้ทยอยกู้สินเชื่อเพิ่มมากขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงสถานะทางการเงินที่รายได้ลดลงอย่างชัดเจน

และหากมองย้อนกลับไปก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ COVID 19 (ปลายปี 2562 พบว่าคนไทยมีเงินฝากทุกประเภทเป็นมูลค่ารวมกัน 13.27 ล้านล้านบาท จำนวนบัญชี 101.64 ล้านบัญชี และเงินฝากไม่เกิน 50,000 บาทต่อบัญชี พบว่ามีจำนวน 88.47 ล้านบัญชี เป็นมูลค่าเงินฝาก 416,876 ล้านบาท มีเงินฝากเฉลี่ยต่อบัญชี 4,712 บาท ซึ่งไม่ได้แตกต่างมากนัก กับปัจจุบันที่มีเงินฝากเฉลี่ยต่อบัญชีอยู่ที่ 4,622 บาท

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3jYgqbd

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด