คาเคาโอ้-โกโก้ ลุยเต็มที่! ชูโมเดล “แฟรนไชส์สร้างอาชีพ” ส่งเสริมให้คนไทยรวยด้วย “โกโก้”
คำว่า “แฟรนไชส์สร้างอาชีพ” ไม่ใช่แค่ให้เรานำเงินไปลงทุนที่เหลือปล่อยให้บริหารจัดการเอง ซึ่งคาเคาโอ้-โกโก้ เดลิเวอรี่ มีเป้าหมายที่ชัดเจนในเรื่องนี้และมีกระบวนการครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ คิดวิเคราะห์วางแผนเพื่อโอกาสของผู้ลงทุนที่จะประสบความสำเร็จได้อย่างสูงสุด
ที่สำคัญไม่ใช่แค่คนลงทุนเท่านั้นที่จะมีรายได้แต่ คาเคาโอ้-โกโก้ เดลิเวอรี่ ยังสร้างรายได้ไปถึงมือเกษตรกรที่ปลูกโกโก้ทั่วประเทศ www.ThaiSMEsCenter.com เห็นว่านี่คือสุดยอดไอเดียแฟรนไชส์ที่เป็นการพัฒนาทั้งระบบถือเป็นการสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งได้ดีที่สุดในยุคนี้
คาเคาโอ้-โกโก้ร่วมจัดตั้ง “วิสาหกิจชุมชน” ทั่วประเทศ
ไม่ได้แค่คิดแต่ลงมือทำอย่างจริงจังสำหรับคาเคาโอ้-โกโก้ ที่ ต้องการให้คนไทยได้ชิม “ช็อกโกแลตแท้ เพื่อสุขภาพที่ดี” เพราะในปัจจุบัน ช็อกโกแลตที่มีให้เห็นกันส่วนใหญ่ใช้กระบวนการอุตสาหกรรมที่ดึงเอาสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายออกไปเกือบหมด เหลือไว้เพียงแค่ผงช็อกโกแลตที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ
คาเคาโอ้-โกโก้ เดลิเวอรี่ คาเฟ่ จึงได้นำความรู้ในเรื่องการปลูกโกโก้ และการสร้างผลิตภัณฑ์แบบ Natural Process ส่งต่อไปให้กับเกษตรกรด้วยการให้เกษตรกรแต่ละจังหวัดหรือแต่ละพื้นที่ จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน ซึ่งปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมถึง 35 วิสาหกิจชุมชนใน 25 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นเป้าหมายคือ การนำผลผลิตที่ได้นำมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่มช็อกโกแลตที่ไม่ผ่านกระบวนการอุตสาหกรรม คงเหลือสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น
อย่างไรก็ดีในรูปแบบของธุรกิจเมื่อมีวัตถุดิบที่ดี ก็ต้องมีการสร้างองค์ความรู้กระจายไปสู่คนไทย และการสร้างช่องทางการจำหน่ายที่เน้นประสิทธิภาพ จึงเป็นที่มาของการสร้างธุรกิจเดลิเวอร์รี่ แบรนด์คาเคาโอ้-โกโก้ เดลิเวอรี่ คาเฟ่ มุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนที่อยากทำงานอยู่กับบ้าน คนที่อยากมีรายได้เพิ่ม คนที่ว่างงาน ด้วยการรูปแบบการขายที่เข้ากับการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันนั่นก็คือ การขายแบบ Delivery เน้นการชงสดทุกแก้ว เป็นการช่วยลดต้นทุนในการเปิดร้าน มีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น
ลงทุนกับ “คาเคาโอ้-โกโก้ เดลิเวอรี่” ดียังไง?
จุดเด่นของคาเคาโอ้-โกโก้ เดลิเวอรี่ คือครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ – ปลายน้ำ มีวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกโกโก้ทั่วประเทศที่จะคอยสนับสนุนวัตถุดิบที่มีคุณภาพ นอกจากนี้คาเคาโอ้-โกโก้เดลิเวอรี่ยังได้มีการจัดกิจกรรมและส่งเสริมการตลาดให้เป็นอย่างดี ทุกกิจกรรมมุ่งเน้นสร้างความรู้ รวมถึงเป็นการกระจายโอกาสสู่สังคมทำให้สามารถเลือกลงทุนได้ในหลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างกิจกรรมที่ผ่านมา ได้แก่
- กิจกรรม Cacao-Cocoa Chocolate workshop ที่เน้นการลงมือทำเป็นหลัก ให้ผู้เข้าร่วมสามารถทำ chocolate ของตัวเองได้
- กิจกรรมเชิญชวนเกษตรกร จ.ระนองมาปลูกโกโก้ใช้เวลาปลูกเพียง 2 ปี ก็เริ่มเก็บผลได้แล้ว
- แคมเปญ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ที่มอบสิทธิให้กับครอบครัวคนพิการ โดยพร้อมแบ่งปันและสนับสนุนให้ครอบครัวผู้พิการได้มีรายได้ด้วยการเปิดร้านภายในบ้านรูปแบบ Home Delivery
และด้วยภาพลักษณ์รวมถึงความมุ่งมั่นดังกล่าว จึงไม่น่าแปลกใจที่ปัจจุบันคาเคาโอ้-โกโก้ เดลิเวอรี่จะขยายสาขาทั่วประเทศได้จำนวนมาก
งบลงทุน 20,900 บาท จะได้อะไรบ้าง?
สำหรับคนที่สนใจใช้เงินลงทุนเพียง 20,900 บาท เน้นรูปแบบ Cloud kitchen รับวัตถุดิบจากแบรนด์มาปรุงไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน เมื่อทำเสร็จจะส่งผ่าน Delivery ให้กับลูกค้าโดยทางแฟรนไชส์ซี เข้ารับการอบรมเรียนรู้สูตรเครื่องดื่มจากทางบริษัทและบริษัทจะทำการโปรโมทการตลาดให้
นอกจากนี้ในเงินทุนจำนวนดังกล่าวสิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือ
- อุปกรณ์ในการชงช็อคโกแลต
- สินค้าสำหรับขายจำนวน 200 ถ้วย
- โทรศัพท์ Smart Phone เพื่อรับ order delivery โดยบริษัทจะให้ยืมใช้ฟรีจนสิ้นสัญญาแฟรนไชส์
- การฝึกอบรมสามารถเลือกวันเวลาตามที่ต้องการได้
- การส่งเสริมด้านการตลาดให้คนรู้จักมากขึ้น
- การพัฒนาสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง
- สอนเทคนิคการขายผ่านเดลิเวอรี่ การเซ็ทระบบต่างๆ
ผลตอบแทน กำไรจากการจำหน่ายเครื่องดื่ม 30-40 % ผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่น 25-30% ของราคาขายปลีก คำนวณคร่าวๆ ถ้าขายได้เฉลี่ย 200 แก้วต่อเดือน (เป็นอย่างต่ำ) สามารถสร้างรายได้ที่เพียงพอได้ถึงเดือนละ 20,000-30,000 บาท และยังเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก สามารถทำเป็นอาชีพหลักหรือทำเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้กับคนไทยได้เป็นอย่างดี
เครื่องดื่มช็อคโกแล็ต ดีต่อสุขภาพอย่างไร?
ภาพจาก แฟรนไชส์คาเคาโอ้-โกโก้ เดลิเวอรี่ คาเฟ่
“ช็อกโกแลตบริสุทธิ์” ของ คาเคาโอ้-โกโก้ เดลิเวอรี่ คาเฟ่ เป็นเนื้อช็อกโกแลตแท้ ๆ ที่มาจากเมล็ดโกโก้ที่ไม่ผ่านกระบวนการอุตสาหกรรมใด ๆ เป็นกระบวนการผลิตแบบNatural Process จึงทำให้มีไขมันดีอุดมสมบูรณ์อยู่ในเนื้อช็อกโกแลต และถูกทำให้เป็นผงด้วยการใช้วิธีขูดจากของแหลมฝีมือคน คุณค่าในช็อกโกแลตสดของคาเคาโอ้-โกโก้จึงสูงกว่า 50-55% รวมไปถึงสารอาหารอื่น ๆ ที่ดีต่อสุขภาพด้วย มีความชัดเจนในเรื่องของรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เนื้อสัมผัสให้ความรู้สึกถึงเมล็ดโกโก้ของไทยอย่างแท้จริง
และสารอาหารสำคัญที่อยู่ในโกโก้อย่างโพลีฟีนอลส์ (Polyphenols) , สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) , สารไนอาซีน (Niacin) ยังช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำร้ายโดยแบคทีเรีย ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งที่มีอยู่แล้วมีการแพร่กระจาย ช่วยกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งตาย ยังมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ไขมันอิ่มตัว และกรดโอเลอิก (Oleic acid) ที่ช่วยให้สุขภาพหัวใจแข็งแรง ลดความเครียด , ลดความดันโลหิต และป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้เป็นอย่างดี
ถือได้ว่าคาเคาโอ้-โกโก้ เดลิเวอรี่ คือสุดยอดแฟรนไชส์ที่ไม่ใช่แค่สร้างอาชีพให้กับคนไทย แต่คือการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนแบบครบวงจร ซึงปัจจุบันมีการขยายสาขาทั่วประเทศจำนวนมาก สร้างรายได้ให้กับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี โดยคาเคาโอ้-โกโก้เดลิเวอรี่ก็ยังคงมุ่งมั่นและพร้อมพัฒนาธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้นเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนอย่างสูงสุด
คาเคาโอ้-โกโก้ เดลิเวอรี่ คาเฟ่
สนใจลงทุน แฟรนไชส์ คลิก
https://bit.ly/3RCfXuZ
โทร. 063-5656963
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)