ความรู้เบื้องต้น! จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
ช่วยแยกแยะความแตกต่างของสินค้าและบริการที่มีอยู่มากมายในท้องตลาด รวมไปถึงช่วยป้องกันผู้อื่นละเมิดสิทธิ์นำตราสินค้าของเราไปใช้ ถ้าถามว่าการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า จะเริ่มต้นและมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อมูลเบื้องต้นมานำเสนอให้ทราบ
กลยุทธ์การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
- จดเฉพาะสินค้าและบริการในปัจจุบัน ข้อดีคือ ประหยัดค่าใช้จ่าย
- จดให้ครอบคลุมสินค้าและบริการที่มีในปัจจุบัน และที่จะมีในอนาคต ข้อดีคือ เมื่อผลิตสินค้าและบริการใหม่จะไม่ต้องยื่นจดทะเบียนใหม่
- จดให้ครอบคลุมสินค้าและบริการมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ข้อดีคือ เป็นการป้องกันผู้อื่น แต่จะมีค่าใช้จ่ายสูง
ขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
ขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ประกอบด้วย
- ผู้ประกอบการตรวจค้นเครื่องหมายการค้า เพื่อตรวจสอบว่ามีความเหมือนหรือคล้ายกับของผู้อื่นหรือไม่
- ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
- เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้น
- นายทะเบียนตรวจสอบเครื่องหมายการค้า
- การประกาศโฆษณา
- การคัดค้าน
- การชำระค่าธรรมเนียม และ
- กรมทรัพย์สินทางปัญญารับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาหลายเดือนพอควร
- สืบค้นรายการสินค้าและบริการที่ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในไทย https://tmsearch.ipthailand.go.th/
- ตรวจสอบความเหมือนคล้ายของเครื่องหมายการค้า https://search.ipthailand.go.th/
- ตรวจสอบสถานะคำขอจดทะเบียนเครื่องหมาย https://search.ipthailand.go.th/
2. การยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
ผู้ประกอบการจะต้องจัดเตรียมเอกสารประกอบการรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ประกอบด้วย
- ต้นฉบับคำขอจดทะเบียน แบบ ก. 01
- ภาพเครื่องหมายการค้าที่ต้องการจดทะเบียน ขนาดไม่เกิน 5×5 เซนติเมตร ขนาดไฟล์ไม่เกิน 500KB จำนวน 1 รูป (หากเครื่องหมายมีขนาดใหญ่เกินต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเซนติเมตรละ 200 บาท)
- บัตรประจำตัวของเจ้าของเครื่องหมายการค้า
- บุคคลธรรมดา ใช้สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง เซ็นสำเนาถูกต้อง 1 ฉบับ
- นิติบุคคล ใช้สำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคลที่ออกไม่เกิน 6 เดือน พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง 1 ฉบับ
- ในกรณีมอบอำนาจ ต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้ : 1. สำเนาหนังสือมอบอำนาจ และ 2.สำเนาบัตรประชาชนของตัวแทน เซ็นสำเนาถูกต้อง
3. การชำระค่าธรรมเนียมรับจดทะเบียน
3.1 คำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
- สินค้าหรือบริการแต่ละจำพวก 1 ถึง 5 อย่าง อย่างละ 1,000 บาท
- สินค้าหรือบริการแต่ละจำพวก มากกว่า 5 อย่าง จำพวกละ 9,000 บาท
- สินค้าหรือบริการแต่ละจำพวก 1 ถึง 5 อย่าง อย่างละ 600 บาท
- สินค้าหรือบริการแต่ละจำพวก มากกว่า 5 อย่าง จำพวกละ 5,400 บาท
- สินค้าหรือบริการแต่ละจำพวก 1 ถึง 5 อย่าง อย่างละ 2,000 บาท
- สินค้าหรือบริการแต่ละจำพวก มากกว่า 5 อย่าง จำพวกละ 18,000 บาท
ธุรกิจเมื่อได้การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและบริการอย่างถูกต้อง จะได้รับการคุ้มครองถึง 10 ปี ซึ่งสามารถต่ออายุทุกๆ 10 ปี โดยการยื่นคำรองต่ออายุภายใน 90 วันก่อนวันหมดอายุ
ภาพจาก https://bit.ly/3lrpieh
ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้พัฒนาบริการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแบบเร่งด่วน (Fast Track) โดยผู้ประกอบการที่ต้องการใช้บริการเครื่องหมายการค้าแบบเร่งด่วน เพียงคำขอเข้าหลักเกณฑ์ง่ายๆ ได้แก่
- ยื่นคำขอผ่านระบบ e-Filing
- ระบุรายการสินค้าหรือบริการไม่เกิน 1 จำพวก และไม่เกิน 10 รายการ ตามบัญชีจากเว็บไซต์ของกรมฯ https://tmsearch.ipthailand.go.th
- แนบเอกสารแสดงเหตุผลจำเป็นในการนำเครื่องหมายการค้าไปใช้ จะได้รับการพิจารณาคำขอเครื่องหมายการค้าครั้งแรก ภายใน 4 เดือน
ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา www.ipthailand.go.th หรือสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 1368
หากเจ้าของธุรกิจสนใจจดเครื่องหมายการค้า พร้อมรับคำปรึกษาฟรี โทร. 02-1019187
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)