ขายของตลาดนัด “เลือกตำแหน่งตั้งร้าน” ยังไง ให้ลูกค้ามาเยอะ
คำว่า “ตำแหน่งตั้งร้าน” ส่วนใหญ่สัมพันธ์กับคำว่า “ฮวงจุ้ย” หรือจะเรียกว่าทิศทางที่ช่วยเสริมการขาย เพิ่มกำลังใจให้พ่อค้าแม่ค้าได้มากขึ้น ซึ่งฮวงจุ้ยของตลาดร้านค้าต้องการความเคลื่อนไหว ที่สะดวกคล่องตัว ดึงดูดลูกค้าให้สนใจสินค้าและเข้าเลือกชมสินค้าได้ง่าย
www.ThaiSMEsCenter.com มั่นใจว่าหลายคนมีแนวคิดง่ายๆ ในการ เลือกตำแหน่งตั้งร้าน คือมองเห็นได้ง่าย มองเห็นได้ทันที แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเลือกตำแหน่งตั้งร้านได้ตามต้องการ ตลาดนัดบางแห่งมีการจับคิว จับฉลากหมุนเวียนตำแหน่งตั้งร้านไปเรื่อย แต่ถ้าเราเลือกได้ก็ควรมีเทคนิคในการ เลือกตำแหน่งตั้งร้าน ในตลาดนัดดังนี้
1.ล็อคที่ 2 ตำแหน่งตั้งร้านที่คนตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
เป็นธรรมดาว่าการเลือกตำแหน่งตั้งร้าน คนส่วนใหญ่ต้องการอยู่หน้าตลาด เพราะเป็นจุดที่มองเห็นชัดเจน คนเดินผ่านเข้าตลาดก็จะเห็นร้านค้าของเราก่อน แต่ก็ใช่ว่าการตั้งร้านหน้าตลาดหรือล็อคแรกสุดจะดีเสมอไป ต้องไม่ลืมว่าลูกค้าที่เดินเข้ามายังไม่ได้ตัดสินใจซื้อสินค้าใดทันที ในทางจิตวิทยาความสนใจของคนเราจะเริ่มต้นเมื่อมีสิ่งเร้า ถ้าล็อคแรกเปรียบเสมือนสิ่งเร้า นั่นหมายความว่าการตั้งร้านในล็อคที่ 2 จะทำให้คนตัดเริ่มตัดสินใจซื้อมากขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับสินค้าและความต้องการของลูกค้าในระดับหนึ่งด้วย
2.ล็อคหัวมุม มาแรงที่สุด
แต่ถ้าจะให้เลือก “ล็อคหัวมุม” น่าจะเป็นตำแหน่งตั้งร้านที่ดีสุด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่ลูกค้าสามารถเดินมาได้จากหลายทิศทาง ทั้งจากด้านซ้าย ด้านขวา ด้านหน้า ด้านหลัง แต่คำว่าล็อคหัวมุมก็ใช่ว่าจะดีทั้งหมดต้องพิจารณาตำแหน่งของคำว่าล็อคหัวมุมด้วยว่าเป็นล็อคมุมหลัง , ล็อคมุมท้าย ซึ่งถ้าเลือกตำแหน่งล็อคหัวมุมไม่ดีก็จะกลายเป็นตำแหน่งร้านค้าที่จนมุมได้เช่นกัน
3.เปิดร้านแบบพร้อมกัน 3 ด้าน
ส่วนใหญ่ร้านในตลาดนัดถ้าเป็นร้านขนาดเล็กก็จะรับลูกค้าหน้าร้านอย่างเดียว แต่ในบางกรณีที่เป็นร้านขนาดใหญ่เช่น ร้านเสื้อผ้า , ร้านอาหาร มีเทคนิคที่จะขายดีขึ้นคือการเปิดร้านพร้อมกัน 3 ด้าน ซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่มีร้านค้าอื่นมาเปิดเส้นทางในการเข้าออก ก็อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่มากขึ้นด้วย แต่ข้อดีคือสามารถรับลูกค้าได้จากทุกทิศทาง เดินมาจากทางไหนก็เข้าร้านเราได้ แต่เจ้าของร้านก็ต้องมีความพร้อมในการรับมือลูกค้าที่อาจมีมากขึ้นการบริหารจัดการในร้านต้องดีเป็นพิเศษด้วย
4.เลือกตำแหน่งร้านใกล้กับสินค้ายอดฮิต
การเลือกตำแหน่งร้านในรูปแบบนี้อาศัยชื่อเสียงและความนิยมของร้านค้าใกล้เคียง ช่วยสนับสนุนให้เราขายดีขึ้นได้ เช่นอยู่ใกล้กับร้านที่มีชื่อเสียงฮิตติดโซเชี่ยล หรือเป็นสินค้ายอดนิยมกลุ่มลูกค้ามาก ถ้าเราตั้งร้านใกล้เคียงกัน โอกาสที่ลูกค้าจะแวะมาหาเราด้วยก็เป็นไปได้มาก แต่ก็ใช่ว่าการเลือกตำแหน่งแบบนี้จะดีเสมอไปบางทีถ้าเราเป็นร้านเสื้อผ้า แต่ไปเลือกตั้งใกล้กับร้านขายอาหาร ก็อาจส่งผลเสียหายต่อสินค้าได้ จึงต้องพิจารณาตามความเหมาะสมด้วย
5.เลือกตำแหน่งร้านจาก “ผังตลาด”
ตลาดนัดแต่ละแห่งมีรูปแบบและขนาดพื้นที่แตกต่างกัน การจัดล็อคจึงแตกต่างกันไปด้วย หากเป็นไปได้ก่อนเลือกตำแหน่งร้านควรศึกษาผังตลาดก่อนว่ามีโซนไหนอะไรบ้าง โดยส่วนใหญ่ตลาดนัดจะจัดโซนอาหารไว้ด้านหน้าเพื่อเรียกลูกค้า ถัดมาก็จะเป็นโซนสินค้าอื่น และส่วนมากโซนกิจกรรมจะอยู่ตรงกลาง ถ้าเราศึกษาผังตลาดจะทำให้ได้เปรียบในการเลือกตำแหน่งที่ตั้งร้านของเราได้มาก
6.ตำแหน่งตั้งร้านขายดีต้องไม่มีสิ่งรบกวน
คำว่าสิ่งรบกวนในที่นี้เช่นไม่อยู่ใกล้ที่ทิ้งขยะของตลาด , ไม่อยู่ใกล้ตำแหน่งลำโพงกระจายเสียง , ไม่อยู่ใกล้ตำแหน่งของห้องน้ำตลาด เป็นต้น การตั้งร้านที่หลีกเลี่ยงตำแหน่งเหล่านี้จะเพิ่มโอกาสในการให้ลูกค้าเดินเข้ามาเลือกสินค้าที่ร้านได้มากขึ้นส่วนจะขายได้ดีมากน้อยแค่ไหนก็อยู่ที่คุณภาพสินค้าและวิธีการขายของพ่อค้าแม่ค้าเป็นสำคัญ
7.เลือกตำแหน่งตั้งร้านที่เป็น “ทางผ่าน”
อีกหนึ่งวิธีการเลือกตำแหน่งร้านในตลาดนัดคำตำแหน่ง “ทางผ่าน” เช่น ทางผ่านเข้าสู่ตลาด , ทางผ่านจากลานจอดรถมาถึงตลาด , ทางผ่านจากตลาดไปยังห้องน้ำ เป็นต้น แต่คำว่าทางผ่านไม่ได้หมายความจะตั้งร้านอยู่ติดกับสิ่งเหล่านี้เพราะแทนที่จะได้เปรียบก็กลายเป็นเสียเปรียบทันที ตำแหน่งทางผ่านที่ดีคืออยู่ตรงกลางระหว่างตลาดและสิ่งปลูกสร้างที่อำนวยความสะดวกเหล่านั้น
อย่างไรก็ดีในเรื่องการเปิดร้านค้าขายวิธีเริ่มต้นที่ง่ายและดีที่สุด ถ้าเราสนใจตลาดนัดสถานที่ใดก็แล้วแต่ แนะนำให้ไปเดินตลาดนัดนั้นด้วยตัวเองสักครั้ง เพื่อพิจารณาเรื่องต่าง ๆ เช่น ทำเลการขาย, บรรยากาศคนเดินเลือกซื้อของ, ประเภทสินค้าที่พ่อค้าแม่ค้าขายกัน, ช่วงเวลาที่ตลาดนัดเปิด / ปิด, ช่วงเวลาที่คนเดินเยอะที่สุด ฯลฯ เพื่อการตัดสินใจที่ง่ายขึ้น
ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3GraWCD , https://bit.ly/3gapFat , https://bit.ly/3tz47r0
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3VF6SmC
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)