วิธีเช็คเงินคืนภาษี ดูตรงไหน กี่วันได้เงินคืน

ถึงฤดูกาลยื่นภาษีอีกแล้ว นอกจากการเตรียมเอกสารและเช็คลิสต์รายการลดหย่อน เช่น ประกันสะสมทรัพย์ลดหย่อนภาษี กองทุนต่าง ๆ หรือเงินบริจาคแล้ว อีกเรื่องที่หลายคนสนใจคือการติดตามเงินคืนภาษี เพราะบางคนยื่นไปนานแล้วแต่ยังไม่ได้เงินคืนสักที วันนี้เรามีวิธีเช็คง่าย ๆ มาแนะนำ

เงินคืนภาษีคืออะไร ทำไมถึงได้คืน

เงินคืนภาษี คือเงินส่วนที่กรมสรรพากรคืนให้แก่ผู้เสียภาษี ในกรณีที่เราชำระภาษีเกินจากภาระภาษีที่ต้องจ่ายจริง เช่น มีค่าลดหย่อนที่ทำให้ภาระภาษีลดลง การถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายจากเงินเดือนมากกว่าที่ควร หรือผู้ที่รับงานอิสระหรือฟรีแลนซ์ เมื่อถึงเวลายื่นภาษีและคำนวณภาษีจริงแล้วพบว่า เงินได้สุทธิไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี หรือถูกหักภาษีไว้เกินกว่าที่ต้องเสียจริง การขอคืนภาษีจึงเป็นสิทธิของผู้เสียภาษีที่สามารถขอรับเงินส่วนเกินคืนได้

ตรวจสอบคืนภาษี กี่วันได้

โดยทั่วไป กรมสรรพากรโอนเงินคืนภาษีให้ภายใน 3 เดือน หลังจากที่ได้รับเอกสารครบถ้วน แต่ระยะเวลาอาจนานขึ้นในช่วงที่มีผู้ยื่นขอคืนภาษีจำนวนมาก เอกสารไม่ครบถ้วน หรือยื่นช้า

วิธีเช็คเงินคืนภาษี

  1. เข้าเว็บไซต์กรมสรรพากร (www.rd.go.th)
  2. คลิก “สอบถามการคืนภาษี (E-Refund)”
  3. เข้าสู่ระบบด้วยเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร และ รหัสผ่าน
  4. ยืนยันตัวตนด้วย รหัส OTP ที่ระบบส่งให้ผ่านเบอร์โทรศัพท์มือถือ
  5. คลิก “ติดตามสถานะขอคืน/นำส่งเอกสาร”
  6. ดูสถานะเงินคืน และช่องทางรับเงิน (3 แบบ) หรือ เลือกเอกสารเพื่อนำส่งเพิ่มเติม

สามารถรับเงินคืนได้ช่องทางไหนบ้าง

กรมสรรพากรมีช่องทางการคืนเงินภาษีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับที่ผู้เสียภาษีเลือกไว้ตอนยื่นแบบ ได้แก่

  • บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวบัตรประชาชน
  • บัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทยและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
  • ผู้ที่ไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับบัญชีไว้ กรมสรรพากรจะออกหนังสือแจ้งคืนเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ค.21) พร้อมเช็คที่จัดส่งผ่านทางไปรษณีย์ เพื่อให้ไปรับเงินภาษีคืนเองที่ธนาคาร

เคล็ด (ไม่) ลับ อยากได้เงินคืนภาษีเร็ว ๆ ทำตามนี้!

อยากได้เงินคืนภาษีเร็ว ๆ ต้องทำยังไง

  1. เช็คให้ชัวร์ก่อนยื่น ตรวจสอบข้อมูลการยื่นภาษีของตนเองให้ถูกต้องและครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลในเอกสารสำคัญต่าง ๆ เช่น หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ใบ 50 ทวิ) ต้องตรงกับข้อมูลที่กรอกในแบบแสดงรายการภาษี
  2. ตามติดเอกสาร หมั่นตรวจสอบอยู่เสมอว่ากรมสรรพากรมีการร้องขอเอกสารเพิ่มเติมหรือไม่ หากมี ให้รีบจัดส่งเอกสารที่ร้องขอโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้การพิจารณาเงินคืนภาษีล่าช้า
  3. ยื่นให้จบในครั้งเดียว ควรยื่นภาษีให้เสร็จสมบูรณ์ในคราวเดียว ไม่ควรยื่นหลายครั้ง หรือยื่นเพิ่มเติมหลายรอบ เพราะจะทำให้การตรวจสอบและพิจารณาเงินคืนภาษีของเจ้าหน้าที่ล่าช้า
  4. ผูกพร้อมเพย์ รับเงินไว ลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชนให้เรียบร้อย เพราะเป็นช่องทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดในการรับเงินคืนภาษี

สรุปบทความ

การขอคืนภาษีไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แค่ยื่นแบบให้ถูกต้อง ตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วน และเลือกช่องทางรับเงินคืนที่สะดวก หากต้องการได้เงินคืนเร็ว แนะนำให้ใช้พร้อมเพย์และตรวจสอบสถานะผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรเป็นระยะ จะได้รู้ว่าต้องทำอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมสรรพากร 1161

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต