การปลูกดอกกุหลาบ
กุหลาบ เป็นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมปลูกมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลกมีต้นกำเนิดจากทวีปเอเชีย ผู้คนนิยมปลูกเพื่อความสวยงาม ตกแต่งสวน, ประดับตกแต่งบ้าน, ประดับสถานที่, ปลูกเพื่อการพาณิชย์
อาทิ เพื่อนำไปสกัดน้ำหอม นำไปทำเป็นส่วนประกอบของสปา รวมถึงเป็นดอกไม้สำคัญที่มักใช้ตามเทศกาลแห่งความสุขต่างๆอีกด้วย ทั้งนี้ราคาของดอกกุหลาบถือเป็นไม้ดอกที่ราคาค่อนข้างดี
แม้ในช่วงปกติโดยราคาอ้างอิงจากตลาดสี่มุมเมืองนั้นมีตั้งแต่ร้อยละ 45 ไปถึงร้อยละ 500 บาทหรือถ้าซื้อเป็นช่อก็มีหลากหลายราคาตามแต่ประเภทของกุหลาบ
ด้วยเหตุนี้ทาง www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าหากเรามีที่ดิน มีองค์ความรู้ในการปลูกกุหลาบถือเป็นอาชีพน่าสนใจที่พร้อมจะสร้างรายได้อย่างดีทีเดียว
ภาจาก https://goo.gl/58FMRE
อุปกรณ์สำคัญในการปลูกกุหลาบ
ที่ดิน ต้นกุหลาบ จอบ เสียม พลั่ว กรรไกรตัดแต่งกิ่ง ปุ๋ย
รูปแบบการปลูกดอกกุหลาบ
ปลูกบนร่องสวน แต่ละแปลงปลูกไม่เกิน 3 แถว
ปลูกกลางแจ้งหรือปลูกใต้หลังคาพลาสติก แปลงปลูกกว้างประมาณ 1 เมตร แต่ละแปลงปลูก 2 แถว เว้นทางเดิน 50 เซนติเมตร
วิธีการปลูก
ภาพจาก https://goo.gl/gv8BqM
เตรียมแปลงดินลึก 50 ซ.ม. ใส่ปุ๋ยซุปเปอร์ฟอสเฟต 250 กิโลกรัม/100 ตารางเมตร ปุ๋ยโปแตสเซียมไนเตรท 60 ก.ก./100 ตร.ม. ปรับเนื้อดินให้ร่วนโดยใส่เปลือกถั่วปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยคอกเก่าๆ 60 ก.ก./100 ตร.ม.
แล้วนำต้นกุหลาบปลูกลงดิน กดดินรอบต้นให้แน่นเล็กน้อย เพื่อกระตุ้นให้รากเจริญ แล้วรดน้ำตามทันที เพราะกุหลาบต้องการความชื้นสูง ไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวันถ้าสภาพดินชุ่มชื้นพอ ไม่ควรรดน้ำให้โดนใบ เพราะโรคที่อยู่ตามใบหรือกิ่งอาจ แพร่กระจายได้
โดยในระยะแรกของการปลูก ควรใส่ปุ๋ยเคมีที่มีไนโตรเจนสูง ทุก 15 หรือ 30 1 กำมือ/ต้น โดยพรวนดินตื้น ๆ แล้วโรยปุ๋ยกระจายรอบ ๆ ต้น จากนั้นรดน้ำตาม เมื่อกุหลาบเริ่มให้ดอกควรใช้ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสและโปแตสเซียมสูงควบคู่กันเพื่อเร่งดอก ส่วนการกำจัดวัชพืชนั้นจะเน้นการใช้แรงงานคนถอนหรือใช้สารเคมีพ่นแต่ต้องระวังไม่ให้ถูกต้นหรือใบกุหลาบด้วย
ภาพจาก https://goo.gl/D2yD0S
การขยายพันธุ์
นิยมทำ 3 วิธี คือ การตัดชำ การตอน และการติดตา การใช้ต้นพันธุ์จากการติดตาปลูกจะได้ระบบรากที่ดีและแข็งแรง แต่มีราคาแพง
การตัดแต่งกิ่ง
เมื่อตากุหลาบเริ่มแตควรเด็ดยอดเหนือใบสมบูรณ์ใบที่สอง เป็นระยะเวลา 2-3 เดือน เพื่อให้กิ่งกระโดงแตกตัดแต่งกิ่งให้เป็นพุ่มกุหลาบโปร่งและไม่สูงเกินไปควรตัดดอกกุหลาบในระยะที่ยังหุบแน่นที่สุด
แต่สามารถบานได้เมื่อปักแจกันใส่น้ำธรรมดา และตัดในช่วงเช้าหรือเย็น ไม่ควรริดใบหรือหนามออก หลังจากตัดดอกแล้วนำไปแช่ในน้ำอุ่น อุณหภูมิ 41-43 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที เพื่อให้ดอกกุหลาบดูดน้ำได้เต็มที่
ก่อนที่จะนำกุหลาบส่งไปขายต้องมีการคัดเกรด ดังนี้
- เกรดพิเศษ ความยาวก้านดอกตั้งแต่ 60 เซนติเมตร ขึ้นไป
- เกรดเอ ความยาวก้านดอกตั้งแต่ 50 เซนติเมตร
- เกรดบี ความยาวก้านดอกตั้งแต่ 40 เซนติเมตร
- เกรดซี ความยาวก้านดอกตั้งแต่ 30 เซนติเมตร
- ดอกที่มีความยาวก้านดอกน้อยกว่า 30 เซนติเมตร ถือว่าเป็นดอกตกเกรดหลังจากนั้น จึงนำมาเข้ามัดโดยจัดให้ส่วนบนของ
- ดอกเสมอกัน ห่อด้วยกระดาษและตัดก้านให้เสมอกัน จำนวนดอกในแต่ละมัดขึ้นอยู่กับขนาดดอกและความต้องการของตลาด
ภาพจาก https://goo.gl/NZGwvt
ข้อแนะนำในการปลูกที่น่าสนใจ
- ควรมีการคลุมแปลงปลูกกุหลาบ โดยใช้วัสดุง่าย เช่น หญ้าแห้ง ฟางข้าว ซังข้าวโพด เป็นต้น เพื่อรักษาความชื้น อุณหภูมิ รวมทั้งเพิ่มความโปร่งของดินและป้องกันวัชพืช
- การเก็บรักษาดอก มี 2 วิธี คือ
- นำไปแช่ในน้ำยารักษาสภาพดอกไม้ อุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เก็บได้นาน 4-5 วัน
- ใส่กล่องรองด้วยพลาสติกเก็บไว้ในห้องเย็น อุณหภูมิ 0.5-3 องศาเซลเซียส เก็บได้นาน 1-2 สัปดาห์
เงินลงทุนเบื้อต้น
ประมาณ 35,000 บาท/ไร่ (ไม่รวมค่าที่ดิน) ต้นกุหลาบที่ได้จากการชำกิ่ง ราคาต้นละ 5-8 บาท
รายได้จากการปลูกกุหลาบ : ประมาณ 45,000 บาท/ไร่/เดือน
แหล่งจำหน่ายต้นกุหลาบ : ตลาดจตุจักร, ตลิ่งชัน, คลอง 15 อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก
ตลาด/แหล่งจำหน่าย : ตลาดสด ปากคลองตลาด ร้านจัดดอกไม้สด
ภาพจาก https://goo.gl/xIZKOm
สถานที่ขอคำปรึกษา และ สถานที่ฝึกอบรม
- กองส่งเสริมพืชสวน กรมส่งเสริมการเกษตร โทร. 0-2561-4879
- สำนักงานเกษตรจังหวัด, สำนักงานเกษตรอำเภอ
แม้จะดูว่าการปลูกกุหลาบนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ในความเป็นจริงแล้วมีเทคนิคที่น่าสนใจอีกมากมายที่เกษตรกรควรศึกษาให้เข้าใจก่อนลงมือปฏิบัติจริงเพื่อให้การลงทุนนั้นคุ้มค่าและสามารถแปรเปลี่ยนเป็นกำไรได้อย่างรวดเร็วที่สุด
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3hbSSMw