การตลาดแบบ “จีน” ที่คนไทยคิดไม่ถึง!
การตลาดแบบ “จีน” จากคนจีนในยุคเสื่อผืนหมอนใบ! ไม่มีใครคาดคิดว่าทุกวันนี้ธุรกิจจากจีนจะบุกตลาดไทยชนิดที่มีคนบอกว่า “ยิ่งธุรกิจจีนในไทยโตเร็วเท่าไหร่ ธุรกิจของคนไทยยิ่งตายเร็วเท่านั้น”
สัญญาณที่บอกว่าน่ากลัวคือ ในปี 2566 ที่ผ่านมา ไทยขาดดุลการค้ากับจีน สูงถึง 1.3 ล้าน ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และไม่ใช่แค่นั้นนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเอแชร์ (A-share) อย่างน้อย 14 แห่งได้ประกาศขยายการลงทุนในไทย ไม่นับรวมกับปัญหาเดิมที่ยังคงอยู่คือบรรดาสินค้าจีนที่ตอนนี้ตีตลาดไทยชนิดกระจุยกระจาย
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ในปี 2566 ไทยนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจากจีนมูลค่า 469,521 ล้านบาท
- 43.3% เป็นการนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
- 10.0% ผัก, ผลไม้สดและปรุงแต่ง
- 9.3% เสื้อผ้าและรองเท้า
- 9.1% เครื่องใช้ในบ้านและของตกแต่งบ้าน
นอกจากการค้าขายแล้วฝั่งของการลงทุนยังพบว่า นักลงทุนจากจีนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของนักลงทุนต่างชาติที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอด้วยมูลค่า 159,387 ล้านบาท โดยทั้งปี 2566 ที่ผ่านมาบีโอไอสรุปยอดต่างชาติขอรับส่งเสริมการลงทุนในไทยมีมูลค่าสูงสุดในรอบ 5 ปี เงินลงทุนกว่า 6 แสนล้านบาท มีโครงการจำนวน 1,394 โครงการ นำโดยการลงทุนอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เกษตรและอาหาร
สิ่งเหล่านี้คือตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มธุรกิจจีนกำลังเติบโตในเมืองไทยอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจไทยที่มีข้อมูลน่าตกใจระบุว่าบรรดา SMEs ของไทยมีเกือบ 3 ล้านราย มีการจ้างงาน 11 ล้านคน จะทยอยล้มหายตายจากไปทุกๆวันด้วย
ซึ่งถ้าไปวิเคราะห์ในเรื่อง การตลาดแบบ “จีน” หรือวิธีการทำธุรกิจแบบคนจีนจะพบว่ามีเอกลักษณ์หลายอย่างที่คนไทยคาดไม่ถึงเช่น
1.เจ้าของธุรกิจทำงานไม่มีวันหยุด
หลักคิดของคนจีนคือขยัน อดทน ทำงานอย่างหนัก มีการประชุมกันอยู่ตลอด และมีความกระตือรือร้นที่จะทำงานอย่างต่อเนื่อง ทุกวันที่ผ่านไปก็คือวันแห่งการทำงาน ดังนั้นในหัวคิดของคนจีนจึงเป็นเรื่องธุรกิจตลอดเวลา และการทำงานก็ไม่ใช่แค่เช้าชามเย็นชามแต่ต้องพัฒนาธุรกิจให้ดีกว่าเดิม เราจึงเห็นธุรกิจมีรูปแบบการเติบโตที่รวดเร็วมาก
2.ทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ
คนจีนถือเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจในหลายๆ อุตสาหกรรม โดยมีคติว่า “ทำธุรกิจ ต้องทำเป็นคนแรก อย่าไปแข่งกับคนที่เขาทำอยู่แล้ว” ความขยันในการคิดและค้นหาสินค้ามาขายก่อนใครๆ ถือเป็นกลยุทธ์การค้าที่สร้างให้พวกเขามั่งคั่งและกลายเป็นเจ้าตลาดมากมาย
3.คนจีนสอนลูกหลานให้รู้จักเก็บเงินไว้เป็นทุนทำธุรกิจ
เคล็ดลับความสำเร็จที่ธุรกิจคนจีนขยายใหญ่โตเพราะเขาจะสอนลูกหลานว่าเมื่อมีเงินอย่าไปใช้ฟุ่มเฟื่อย ส่วนหนึ่งเก็บไว้ใช้ และต้องมีส่วนที่เก็บไว้ขยายธุรกิจด้วย การขยายธุรกิจแบบจีนใช่จะโตแบบพรวดพราด แต่เขาจะค่อยๆขยาย จากหนึ่งเป็นสองจากสองเป็นสาม บางทีหากไม่แน่ใจก็ยังไม่ลงทุนขยายด้วย
4.ไม่จำเป็นอย่ามีหนี้สูญ
เราจะเห็นตามร้านค้าปลีกที่มักมีภาพล้อเลียนระหว่างพ่อค้าเงินสด กับพ่อค้าเงินเชื่อ เหมือนคำแบบไทยๆที่คุ้นเคยกันดีว่าจ่ายสด งดเชื่อ เบื่อทวง นั้นคือลักษณะของการค้าแบบจีนที่ไม่ต้องการให้เกิดหนี้สูญ ส่วนใหญ่มักใช้ระบบเงินสดไม่ใช่เงินเชื่อ หรือเงินผ่อน คนจีนเชื่อว่าการเป็นหนี้ทำให้เสียเวลาในการทำธุรกิจมากกว่าเดิมและไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ
5.เทคนิคซื้อเมื่ออิ่ม ขายเมื่อหิว
คนจีนส่วนใหญ่มักมีหัวธุรกิจที่ไม่ใช่แค่หัวพ่อค้าคือรู้จักมองการณ์ไกล และไขว่คว้าโอกาสทองที่เหมาะสมแบบไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือ ดังเราจะเห็นว่าคนจีนมักคิดโน่นทำนี่ ออกมาขาย ซึ่งในช่วงแรกๆอาจขายไม่ได้เลยแต่ก็ไม่เคยเป็นปัญหาเพราะเขาถือว่าอะไรที่เริ่มต้นมักยากเสมอ คนจีนจะรู้จักประเมินจากปัจจัยแวดล้อมว่าธุรกิจไหนควรทำหรือไม่ควรทำในพื้นที่นั้นๆ
6.เน้นกระจายความเสี่ยง
เราจะเห็นว่าคนจีนที่เป็นนักธุรกิจไม่ได้เอาเงินไปกระจุกไว้ที่เดียว หากแต่มีการกระจายความเสี่ยงไปสู่การลงทุนในรูปแบบอื่นๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ หุ้นส่วนในกิจการอื่น รวมถึงการลงทุนหรือขยายกิจการในต่างประเทศอันเป็นการกระจายความเสี่ยงหากเกิดปัญหากับธุรกิจหลักก็ยังมีรายได้จากทางอื่นหลงเหลืออยู่
และอีกเหตุผลน่าสนใจที่ทำให้ทุกวันนี้ในเมืองไทยแทบจะกลายเป็นเมืองจีนก็เพราะการเข้ามาของชาวจีนจำนวนมากที่มีทั้งมาท่องเที่ยว , มาเรียนต่อ หรือมาตั้งหลักปักฐาน เราจะเห็นว่าปัจจุบันมีพื้นที่ไชน่าทาวน์ใหม่ในไทย จากเดิมที่มีเยาวราชแห่งเดียว แต่ตอนนี้ก็มีห้วยขวาง มาเป็นไชน่าทาวน์ใหม่ ในกรุงเทพฯ เพราะมีคนจีนอพยพมาอยู่ในย่านนี้ไม่ต่ำกว่า 7,000 คน
สาเหตุที่คนจีนมารวมตัวกันในพื้นที่เหล่านี้วิเคราะห์ว่าเพราะเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับสถานทูตจีน และศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน แล้วก็ยังมีธนาคารจีนที่เข้าถึงได้ง่าย แถมยังมีร้านอาหารจีน บริการโลจิสติกส์ บริการด้านสุขภาพ สถานีขนส่งมวลชนที่สะดวกสบาย ที่พักที่มีพนักงานพูดภาษาจีนได้ด้วย
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)